ข้อบังคับที่โรงงาน ควรติดตั้งผ้ากันไฟในประเทศไทย การกำหนดให้โรงงานต้องติดตั้งหรือมีผ้ากันไฟโดยตรง อาจไม่ถูกระบุเป็นข้อบังคับตายตัวในกฎหมายเฉพาะเจาะจงว่า "ต้องมีผ้ากันไฟจำนวนกี่ผืน ติดตั้งที่ใดบ้าง" อย่างชัดเจนเหมือนอุปกรณ์ดับเพลิงขั้นต้นประเภทอื่น ๆ เช่น ถังดับเพลิง หรือระบบหัวกระจายน้ำดับเพลิงอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตาม ผ้ากันไฟ ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญภายใต้กรอบของ มาตรการป้องกันและระงับอัคคีภัย และ ความปลอดภัยในการทำงาน ที่โรงงานทุกแห่งต้องจัดให้มี ตามกฎหมายและกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดประกายไฟหรือความร้อนสูง
กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย:
พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554:
เป็นกฎหมายหลักที่กำหนดให้สถานประกอบกิจการต้องจัดให้มีมาตรฐานด้านความปลอดภัย เพื่อคุ้มครองลูกจ้าง
มาตรา 8 กำหนดให้นายจ้างจัดและดูแลสถานประกอบกิจการและลูกจ้างให้มีความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เหมาะสมและปลอดภัย
กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2555:
กฎกระทรวงฉบับนี้เป็นตัวกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการป้องกันและระงับอัคคีภัยในสถานประกอบกิจการ
ข้อ 26 ให้นายจ้างจัดให้มีมาตรการป้องกันผลกระทบจากฟ้าผ่าเข้าสู่ระบบไฟฟ้าของอาคาร (อันนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับผ้ากันไฟโดยตรง แต่แสดงให้เห็นถึงการกำหนดมาตรการป้องกัน)
หมวด 4: การป้องกันอัคคีภัยจากแหล่งก่อเกิดการกระจายตัวของความร้อน: แม้ไม่ได้ระบุผ้ากันไฟโดยตรง แต่มาตราการในหมวดนี้จะครอบคลุมถึงกิจกรรม Hot Work (งานที่ทำให้เกิดความร้อนหรือประกายไฟ เช่น งานเชื่อม งานตัดโลหะ)
โดยทั่วไป ข้อกำหนดในเรื่อง "Hot Work Permit" หรือ "ใบอนุญาตทำงานที่เกี่ยวข้องกับความร้อน" จะระบุถึง มาตรการป้องกันเพิ่มเติม ซึ่งอาจรวมถึงการใช้ผ้ากันไฟเพื่อป้องกันสะเก็ดไฟไม่ให้ตกใส่และจุดติดวัสดุไวไฟใกล้เคียง
ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การป้องกันและระงับอัคคีภัยในโรงงาน พ.ศ. 2552:
ประกาศนี้บังคับใช้กับโรงงานจำพวกที่ 2 และจำพวกที่ 3 (ไม่รวมจำพวกที่ 1)
ในส่วนของมาตรการป้องกัน: แม้จะไม่ระบุถึง "ผ้ากันไฟ" เป็นชื่อเฉพาะ แต่โดยหลักการแล้ว โรงงานจะต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเพลิงไหม้จากการทำงาน เช่น
การจัดเก็บวัตถุไวไฟอย่างปลอดภัย
การป้องกันสะเก็ดไฟในบริเวณที่มีงานเชื่อม ตัด เจียร
การจัดให้มีอุปกรณ์ดับเพลิงขั้นต้นในจุดเสี่ยง
ตามแนวทางปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ในงาน Hot Work: มักจะแนะนำให้
นำสิ่งที่ติดไฟได้ออกจากพื้นที่ทำงานที่เกี่ยวกับความร้อน
ในกรณีที่ไม่สามารถนำสิ่งที่ติดไฟได้ออกไปได้ ให้ปิดคลุมสิ่งเหล่านั้นด้วยผ้าหรือกระบังทนไฟ (Welding Blanket / Fire Resistant Cover)
จัดให้มีถังดับเพลิงและ/หรือถังน้ำ พร้อมใช้เตรียมไว้ในพื้นที่ที่ปฏิบัติงานด้วย
สรุปข้อบังคับโดยอ้อมและการปฏิบัติที่ควรทำ:
แม้กฎหมายไทยอาจไม่ได้ระบุว่า "โรงงานต้องติดตั้งผ้ากันไฟกี่ผืน" อย่างชัดเจน แต่โดยหลักการแล้ว:
โรงงานต้องมีมาตรการป้องกันและระงับอัคคีภัย: ซึ่งรวมถึงการควบคุมแหล่งกำเนิดประกายไฟและความร้อน (เช่น งานเชื่อม, งานตัด)
ในพื้นที่ที่มีกิจกรรม Hot Work (งานที่ทำให้เกิดประกายไฟ/ความร้อนสูง): โรงงาน "ควร" หรือ "จำเป็นต้อง" จัดให้มีผ้ากันไฟ (Welding Blanket / Fire Retardant Blanket) เพื่อ:
ป้องกันสะเก็ดไฟ: ไม่ให้ตกใส่เชื้อเพลิงหรือวัสดุไวไฟ
กั้นพื้นที่: แยกโซนทำงานที่มีความเสี่ยงสูงออกจากพื้นที่อื่น
ปกคลุมวัสดุ: ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ทำงานได้
ผ้าห่มดับไฟ (Fire Blanket): สำหรับใช้เป็นอุปกรณ์ดับเพลิงขั้นต้น ควรมีติดตั้งในจุดเสี่ยงที่อาจเกิดเพลิงไหม้ขนาดเล็กได้ง่าย เช่น ห้องครัวโรงอาหาร หรือบริเวณใกล้จุดที่มีความร้อนเฉพาะจุด
ดังนั้น การติดตั้งผ้ากันไฟในโรงงานจึงเป็นไปตามหลักการของ "การป้องกันและระงับอัคคีภัย" และ "การจัดให้มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย" ซึ่งเป็นข้อบังคับตามกฎหมายความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน แม้จะไม่ได้ระบุชนิดและจำนวนอย่างละเอียดเท่าถังดับเพลิง แต่ก็เป็นมาตรการที่จำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในบริเวณที่มีความเสี่ยงจากการทำงานที่ทำให้เกิดประกายไฟหรือความร้อนสูง. การทำตามแนวทางปฏิบัติและมาตรฐานสากล เช่น NFPA (National Fire Protection Association) ก็เป็นสิ่งสำคัญที่โรงงานควรพิจารณาเพิ่มเติม เพื่อความปลอดภัยสูงสุด.